ความเสถียร ความปลอดภัยที่ตอบโจทย์ เหมาะสำหรับ
- E-commerce & ธุรกิจ SMB/SME
- องค์กรเอกชนขนาดใหญ่ (Enterprise)
- หน่วยงานรัฐบาล / รัฐดิจิทัล
ความมั่นคงระดับรัฐวิสาหกิจสู่เว็บไซต์ทุกขนาด
Managed Website Services คือบริการดูแลเว็บไซต์และ Web Application ของลูกค้าแบบครบวงจรและต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ (Managed Service Provider – MSP) บริการนี้ครอบคลุมมากกว่าแค่การเช่าพื้นที่โฮสติ้ง แต่รวมถึงการบริหารจัดการเชิงลึกตั้งแต่ระดับ Server Performance Optimization, Security Patch Management (โดยเฉพาะ CMS เช่น WordPress), การตั้งค่า Caching และ CDN, ไปจนถึงการสำรองและกู้คืนข้อมูล (Backup & Disaster Recovery)
หัวใจของบริการนี้คือการปลดภาระงานด้านเทคนิคที่ซ้ำซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงออกจากทีมงานภายในองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ที่เป็นหน้าร้านดิจิทัลของคุณจะทำงานได้อย่างรวดเร็ว เสถียร และปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการ ลด Down Time, เพิ่มความเร็วในการโหลด (Load Speed) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ อันดับ SEO และ ยอดขายของธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่ม E-Commerce
บริการนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น E-commerce ที่ต้องการความเร็วในการโหลดเพื่อเพิ่มยอดขาย, องค์กรเอกชน ที่ต้องการความมั่นคงระดับสูงและ Uptime 99.99%, ไปจนถึง หน่วยงานรัฐบาล/รัฐดิจิทัล ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Law) และมีข้อมูลอยู่ในประเทศ (Data Residency) เราผสานการจัดการ CMS Patching เชิงรุก, Performance Optimization เพื่อลด Bounce Rate, และการป้องกัน Anti-DDoS เข้ากับโครงสร้าง Enterprise Cloud Tier 3+ ของเรา ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเว็บไซต์ล่ม ถูกโจมตี หรือการจัดการทางเทคนิคที่ซับซ้อนอีกต่อไป
ปัญหาและความท้าทายที่เราจะช่วยคุณแก้ปัญหา
เว็บไซต์โหลดช้า สูญเสียลูกค้าเพราะความหน่วงเกิน 3 วินาที
ความเสี่ยง Malware/ถูก Hack ขาดการอัปเดต CMS ทำให้เกิดช่องโหว่
ระบบล่มช่วง Traffic พุ่ง เว็บไซต์ไม่สามารถรับมือกับ Peak Load ได้
ความไม่มั่นคงทางกฎหมาย ไม่สามารถทำตามข้อกำหนด Cybersecurity/PDPA ได้
การกู้คืนระบบที่ล่าช้า ขาดการสำรองข้อมูลที่น่าเชื่อถือเมื่อเกิดปัญหา
ภาระงานซ้ำซ้อนของทีม IT ทีมงานเสียเวลาไปกับงาน Maintenance รูทีน
ไม่ว่าเว็บไซต์ของคุณจะเป็นศูนย์กลาง E-commerce, ระบบบริการประชาชน, หรือช่องทางสื่อสารองค์กรสำคัญ มอบหมายให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราดูแล
Web Hosting แบบไม่มี Managed Services (Self-Managed) vs. มี Managed Services
ความปลอดภัย (Security)
Self-Managed: คุณมีหน้าที่ ติดตั้งและดูแล Firewall, อัปเดต Security Patch ของ OS และซอฟต์แวร์ทั้งหมด หากพลาดไปแม้แต่จุดเดียว Server อาจถูก Hack ได้ง่าย ๆ
Managed Services: ผู้ให้บริการจะดูแล Hardening Security ของ Server, อัปเดต Patch ตลอดเวลา และมักมีระบบป้องกัน DDoS หรือ WAF (Web Application Firewall) ระดับสูงให้ด้วย
การสำรองและกู้คืนข้อมูล (Backup and Recovery)
Self-Managed: คุณต้องตั้งค่าระบบ Backup เอง และต้องมั่นใจว่าแผน Restore นั้นทำงานได้จริง เมื่อเกิดปัญหามักต้องใช้เวลานานในการกู้ระบบ
Managed Services: ผู้ให้บริการจัดการสำรองข้อมูลรายวัน/รายสัปดาห์โดยอัตโนมัติ และรับประกัน การกู้คืนระบบที่รวดเร็วตามที่ระบุไว้ในสัญญา (SLA)
เวลาและต้นทุนรวม (Time and Total Cost of Ownership - TCO)
Self-Managed: แม้ค่าเช่าจะถูก แต่เมื่อรวม ค่าจ้างบุคลากร IT ผู้เชี่ยวชาญ ที่ต้องมาดูแลระบบตลอดเวลา และ ความเสียหายเมื่อระบบล่ม (เช่น เสียยอดขาย) TCO มักจะสูงกว่าที่คิด
Managed Services: คุณจ่ายค่าบริการรายเดือนที่สูงขึ้นเพื่อ แลกกับเวลาและความสบายใจ ซึ่งโดยรวมแล้วมักจะ คุ้มค่ากว่าสำหรับธุรกิจที่ไม่ต้องการความเสี่ยงด้าน IT
ขอบเขตการจัดการ (What We Manage)
ครอบคลุมทุก Layer ของเว็บไซต์ เราให้บริการดูแลเว็บไซต์บนโครงสร้าง Cloud Private Hosting โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลักเพื่อประสิทธิภาพและความมั่นคงสูงสุด
Web Performance & Optimization (ความเร็วและเสถียรภาพ)
Speed Tuning (การเร่งความเร็ว): ปรับจูน Web Server (Nginx/Apache) และ PHP Environment เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมการตั้งค่า Caching ที่ซับซ้อน (เช่น Redis/Varnish) รวมถึงดูแล Cache ทุกระดับ ตั้งแต่ Server Cache ไปจนถึง Application Cache เพื่อลด Latency
Traffic Management: จัดการ Load Balancing และ Auto Scaling บน Cloud เพื่อให้ระบบรองรับจำนวนผู้เข้าชมที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน (เช่น การยิงแคมเปญ หรือช่วงลงทะเบียนของหน่วยงานรัฐ) เชื่อมต่อและบริหารจัดการ CDN เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
Database Health Check: ตรวจสอบและ Optimize ฐานข้อมูลของเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลด Latency ในการประมวลผลคำสั่ง
Proactive Security & Patch Management (ความปลอดภัยเชิงรุก)
Managed CMS Updates: ตรวจสอบความเข้ากันได้และอัปเดต Core System, Theme, และ Plugin ของ CMS (WordPress, Joomla, Magento) เพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทันที
Web Application Firewall (WAF): ตั้งค่าและจัดการ WAF เพื่อป้องกันภัยคุกคามใน Application Layer (เช่น SQL Injection, XSS)
Malware & Anti-Hacking Service: ระบบสแกนและแจ้งเตือน Malware ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการ Cleanup และ Hardening หลังการโจมตี
CMS Core & Plugin Updates: ตรวจสอบและอัปเดต WordPress/CMS Core, Theme, และ Plugin อย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันช่องโหว่ (พร้อมการทดสอบก่อนใช้งานจริง)
Business Continuity & Reporting
(การต่อเนื่องทางธุรกิจ)
Automated Backup & DR: สำรองข้อมูลเว็บไซต์ (Full Backup) ทุกวันไปยัง Cloud Storage ที่ปลอดภัย พร้อมการทดสอบ Restore Test เป็นระยะ
Domain & DNS Management: ช่วยเหลือการจัดการ DNS, SSL Certificate (ติดตั้ง/ต่ออายุ) และการเชื่อมต่อ Domain Name ทั้งหมด
24/7 Monitoring & Incident Response: ทีมงานของเราเฝ้าระวัง Uptime และ Performance ของเว็บไซต์ตลอดเวลา พร้อมเข้าแก้ไขเหตุการณ์ฉุกเฉินตาม SLA ที่รวดเร็วที่สุด
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เราเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้เป็นแพลตฟอร์มที่เร็ว ปลอดภัย และเสถียร ด้วยกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐาน
การวิเคราะห์และออกแบบกลยุทธ์
(Strategy & Architecture Design)
- ทีมงานของเราจะทำ Web Health Check เชิงลึกในด้าน Performance และ Security จากนั้นออกแบบสถาปัตยกรรม Cloud Private Hosting ที่เหมาะสมกับ CMS (WordPress, E-commerce) รวมถึงวางแผน Migration และ Disaster Recovery (DR)เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น
การติดตั้งและปรับจูนประสิทธิภาพ
(Setup & Performance Optimization)
- ดำเนินการ Security Hardening Server, ติดตั้งและตั้งค่า Web Application Firewall (WAF) และระบบป้องกัน Anti-DDoSพร้อมกับการปรับจูน Performance เว็บไซต์อย่างละเอียด เช่น การติดตั้ง Caching Layer (Redis/Varnish) และการเชื่อมต่อ CDN เพื่อเร่งความเร็วในการโหลด
การจัดการและตอบสนองเหตุการณ์ 24/7
(Proactive Management & Incident Response)
- ดูแลงาน Routine ทั้งหมดแบบ Proactive ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ การจัดการ CMS/Plugin Updates อย่างปลอดภัย, การสแกนและกำจัด Malware, การบริหารจัดการ Load Balancing และ Backup อัตโนมัติ รวมถึงการตอบสนองและแก้ไขเหตุการณ์ฉุกเฉิน (Incident Response) เมื่อระบบมีปัญหา
การรายงานและปรับปรุงต่อเนื่อง
(Reporting & Continuous Improvement)
- จัดเก็บ Website Performance Score, สถิติความปลอดภัย (ภัยคุกคามที่ถูกบล็อก), และการใช้ทรัพยากรของ Cloud Server พร้อมให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับการปรับปรุงและขยายระบบในอนาคต เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน
Managed Services 360° Enterprise Cloud
Managed Services ของ THAI DATA นั้นมีความครอบคลุมตั้งแต่ระดับ Infrastructure ไปจนถึง Application และเน้นที่ Cloud Server และ Security เป็นหลัก การให้บริการควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-Added) เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด
Managed Services อื่นที่น่าสนใจ
“THAI DATA มีจุดแข็งที่ชัดเจนด้าน Enterprise Cloud และ Security/Compliance (มาตรฐาน ISO, Tier 3+ Data Center) พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ 24/7 ที่มาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก”